ตอนที่ 5 สงครามสุดท้ายกับการพิพากษา
ในวันนี้จะเป็นบทสรุปของบทความชุดการกลับมาของนบีอีซาและวาระสุดท้าย สิ่งที่เป็นจุดสูงสุดหรือ climax ของวาระสุดท้ายก็คือ สงครามสุดท้าย หรือที่เรียกกันว่า สงครามฮัรมะญิดโดน (อาร์มาเกดดอน) และการกลับมาของนบีอีซาในฐานะผู้พิพากษาครั้งสุดท้าย
ในตอนก่อนหน้าเราได้กล่าวถึงปรากฏอัล-มะซีฮฺตัวปลอมอย่างอัลมะซีฮุดดัจญ์ญาลที่จะสำแดงตัวในวาระสุดท้ายและได้เป็นผู้นำโลก ในคัมภีร์บริสุทธิ์อย่างอัลอินญีล และข้อเขียนของบรรดานบีและสาวกของนบีอีซาได้บันทึกถึงอัลมะซีฮุดดัจญ์ญาลว่าจะมีบทบาทดังนี้
1.เป็นผู้นำสูงสุดของโลก มีอำนาจเหนือประชาชาติ ทำสนธิสัญญาสันติภาพ 7 ปีระหว่างอิสราเอลและประเทศที่เป็นศัตรู จนสามารถทำให้เกิดการสร้างพระวิหารขึ้นใหม่ของชาวยิวที่กรุงเยรูซาเล็ม (จากคำทำนายของนบีดานียาล หรือดาเนียล 9:26-27)
2. นอกจากนี้อัลมะซีฮุดดัจญ์ญาลจะเป็นผู้อยู่เหนือระบบการเงินของโลก ผู้ที่ต้องการจะทำการซื้อขายจะต้องรับเครื่องหมายของเขาไว้ที่มือหรือหน้าผาก จึงจะทำการซื้อขายได้ (จากคัมภีร์อัล-อินญีลวิวรณ์ 13)
3.แต่เมื่อเวลาผ่านไป 3 ปี ครึ่ง สนธิสัญญาสันติภาพจะถูกหักลง อัลมะซีฮุดดัจญ์ญาลจะกลับเข้าไปในพระวิหารและประกาศตัวเป็นพระเจ้า (จากคัมภีร์อัล-อินญีล 2 เธสะโลนิกา 2:4) แล้วจะเกิดความขัดแย้งกันกับชนชาติอิสราเอลจนกลายเป็นสงครามครั้งใหญ่ถึงขั้นเป็นสงครามโลกที่เรียกว่าฮัรมะญิดโดน (อาร์มาเกดดอน) ซึ่งชื่อนี้มาจากเนินเขาเมกิดโดที่เป็นสถานที่สู้รบโบราณ (จากคัมภีร์อัล-อินญีลวิวรณ์ 16:12-16)
และเมื่อถึงจุดสูงสุดของสงครามฮัรมะญิดโดนนี้ นบีอีซาจะเสด็จกลับมาเพื่อจบสงครามนี้ และทำลายล้างอัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล ดังที่บันทึกในคัมภีร์อัล-อินญีล 2 เธสะโลนิกา 2:9 ไว้ว่า
“ขณะนั้นคนนอกกฎหมาย (อัลมะซีฮุดดัจญ์ญาล) ก็จะปรากฏตัวขึ้น และนบีอีซาอัลมะซีห์จะประหารมันด้วยลมปากของท่าน และจะผลาญให้สูญไปด้วยการเสด็จมาอันรุ่งโรจน์ของท่าน”
จากนั้นเองนบีอีซาจะมาครอบครองโลกดุนยาที่ถูกสร้างใหม่จนเต็มไปด้วยสันติภาพ และก็จะถึงวันกิยามะห์ที่มนุษย์ทุกคนถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นและถูกพิพากษาโดยท่านนบีอีซาตามการกระทำของแต่ละคน ดังที่มีบันทึกในคัมภีร์อัล-อินญีลวิวรณ์ 20:11-15
“แล้วข้าพเจ้าเห็นพระที่นั่งใหญ่สีขาวและเห็นพระองค์ผู้ประทับบนพระที่นั่งนั้น แผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์ก็หายไปจากพระพักตร์ของพระองค์ และไม่มีใครพบเห็นที่อยู่ของพวกมันอีกเลย ข้าพเจ้ายังเห็นบรรดาคนตาย ทั้งคนใหญ่โตและคนเล็กน้อยยืนอยู่หน้าพระที่นั่งนั้น แล้วหนังสือต่างๆ ก็ถูกเปิดออก และหนังสืออีกเล่มหนึ่งก็ถูกเปิดออกด้วย คือหนังสือแห่งชีวิต คนตายก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของเขาทั้งหลายที่เขียนไว้ในหนังสือเหล่านั้น ทะเลก็ส่งคืนคนตายที่อยู่ในทะเล ความตายและแดนคนตายก็ส่งคืนคนตายที่อยู่ในนั้น แต่ละคนก็ถูกพิพากษาตามการกระทำของตน แล้วความตายและแดนคนตายก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟ บึงไฟนี่แหละคือความตายครั้งที่สอง และถ้าพบว่าใครไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต เขาก็จะถูกโยนลงไปในบึงไฟ”
หากท่านผู้อ่านได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว และท่านรับรู้ได้ว่าโลกดุนยาใกล้จะถึงกาลอวสาน และนบีอีซาใกล้จะกลับมาแล้วตามสัญญาณต่างๆ ที่ถูกทำนายไว้ล่วงหน้า แต่ตัวท่านเองยังไม่มั่นใจว่าในวันอาคีเราะฮฺ เมื่อถูกพิพากษาแล้วจะได้รอดเข้าสู่เมืองสวรรค์หรือไม่ ขอให้ท่านได้เชื่อวางในนบีอีซา เพราะนบีอีซาได้เสด็จมาแล้วเพื่อเปิดทางรอดเข้าสู่สรวงสวรรค์ให้ท่าน ท่านจะสามารถมั่นใจและไม่ต้องเกรงกลัวต่อวาระสุดท้ายอีกเลย ขอฝากโองการสุดท้ายให้ผู้อ่านทุกท่านจากคัมภีร์อัล-อินญีลยะยาห์ 3:16-18
“เพราะว่าอัลลอฮฺทรงรักโลกดุนยามาก จนถึง ขนาดประทานอัล-มะซีฮฺผู้เป็นที่รักยิ่งผู้เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่ศรัทธาในท่านนั้นจะไม่พินาศ แต่มีชีวิตนิรันดร์ เพราะว่าอัลลอฮฺทรงให้อัล-มะซีฮฺผู้เป็นที่รักยิ่งเข้ามาในโลกดุนยา ไม่ใช่เพื่อพิพากษา แต่เพื่อช่วยให้รอดโดยท่านนั้น คนที่ศรัทธาในอัล-มะซีฮฺจะไม่ถูกพิพากษา ส่วนคนที่ไม่ได้ศรัทธาก็ถูพิพากษาอยู่แล้ว เพราะเขาไม่ได้ศรัทธาในนามของอัล-มะซีฮฺผู้เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮฺ”