มีคัมภีร์อัลกุรอานแล้ว ทำไมยังต้องอ่านคัมภีร์อินญีลอีก
อัลอินญีลในอัลกรุอานได้กล่าวว่า อีซาเป็นอัลมาซีฮฺ และทั้งอัลกุรอานและอินญีลได้บอกว่า อีซา อัลมาซีฮฺ คือ กาลิมะ (คำ) หรือ kalimat Allah ซึ่งก็คือ “ถ้อยคำของอัลลอฮฺ” ซึ่งแม้แต่ในอัลกุรอานก็ได้บันทึกไว้ถึง 6 ครั้ง*
นั่นหมายความว่า “ถ้อยคำของอัลลอฮฺอยู่ท่ามกลางมนุษย์”
ตอนเริ่มต้นก่อนโลกดุนยานี้เกิดขึ้นก็มี กาลิมะตุลลอฮฺอยู่แล้ว กาลิมะตุลลอฮฺอยู่กับอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺเป็นฉันใด กาลิมะตุลลอฮฺก็เป็นฉันนั้น (อินญีล ยะหฺยา 1:1)
แล้วกาลิมะตุลลอฮฺก็ได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ (อีซาอัลมาซีฮฺ)
กาลิมะตุลลอฮฺนั้นมาเกิดเป็นมนุษย์และมีชีวิตอยู่ท่ามกลางเรา เราเห็นสง่าราศีของท่านซึ่งเหมือนสง่าราศีของบุตรคนเดียวของบิดา บริบูรณ์ด้วยความกรุณาปรานีและสัจธรรม (อินญีล ยะหฺยา 1:14)
อัลรูฮุลกุดุซู (พระวิญญาณบริสุทธิ์) روحالقدس คือผู้เขียนคัมภีร์อินญีล
สาวกของอีซาอัลมาซีฮฺเป็นผู้บันทึกคัมภีร์อินญีลโดยได้รับการดลใจจาก “อัลรูฮุลกุดุซู” ซึ่งนั่นหมายความว่า “ผู้เขียนคัมภีร์อินญีลที่แท้จริงคืออัลลอฮฺ”
อีซาอัลมาซีฮฺ บอกสาวกของท่านว่า “แต่องค์ผู้ช่วยคืออัลรูฮุลกุดุซู ซึ่งพระบิดาจะทรงส่งมาในนามของเรานั้นจะทรงสอนพวกท่านทุกสิ่ง และจะทำให้ระลึกถึงทุกสิ่งที่เรากล่าวกับพวกท่านแล้ว” อินญีล ยะหฺยา 14:26
ดังนั้น.. จึงมั่นใจได้ว่าถ้อยคำของอัลลอฮฺได้ส่งตรงมาถึงมนุษย์ ผ่านทางอีซาอัลมาซีฮฺ
และเหตุผลที่ควรต้องอ่านคัมภีร์อินญีลนั่นก็เพราะ...
“…เพื่อพวกท่านจะได้ศรัทธาในอีซาว่าเป็นอัล มะซีฮฺ ผู้เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮฺ และเมื่อมีความศรัทธาแล้วท่านก็จะมีชีวิตโดยนามของอีซา” อินญีล ยะหฺยา 20:31
* อัลกุรอาน 3:39, 3:45, 3:48, 4:171, 5:46, 5:110